Entertainment

10 เรื่องสร้างจุดเปลี่ยนของหนังฮ่องกง


10 เรื่องสร้างจุดเปลี่ยนของหนังฮ่องกง

สำหรับคนที่มีอายุเกิน 30 ปีขึ้นไปน่าจะเติบโตมากับหนังฮ่องกง ประเภทมาเฟีย หรือโคตรเซียนกันแน่นอน หนังฮ่องกงในยุคก่อนซึ่งถือว่าเป็นยุครุ่งเรืองสุดๆ อันมี หลิวเต๋อหัว โจวเหวินฟะ เฉินหลง และโจวซิงฉือ เป็นหัวหอก เรียกว่าเล่นเรื่องไหนก็รับประกันว่าไม่เจ๊งแน่นอน ในปีๆ หนึ่งจะมีหนังของพวกเขาเหล่านี้ออกมามากกว่า 1 เรื่องเสมอ อาจจะยกเว้นเฉินหลงที่จะทำหนังปีละเรื่อง เพื่อเข้าฉายช่วงตรุษจีนในปีนั้นๆ นั่นทำให้ลักษณะของหนังฮ่องกงในช่วงนั้นเต็มไปด้วยบทที่กลวงโบ๋ บางเรื่องแทบจะไม่มีบทด้วยซ้ำ เพื่อที่จะได้ถ่ายทำออกมาได้รวดเร็ว ตรงนี้เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของหนังฮ่องกงในยุคเรืองรอง

หนัง 10 เรื่องที่จะเขียนถึงด้านล่างนี้ อาจจะไม่ใช่หนังดีเลิศเลอขนาดได้รางวัลอะไร แต่ทุกเรื่องล้วนเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับวงการหนังฮ่องกง บางเรื่องมีการทำภาคต่อ บางเรื่องก็มีเรื่องอื่นลอกแนวไปทำ บางเรื่องก็ก่อให้เกิดกระแสทางสังคม ฯลฯ ทั้ง 10 เรื่องนี้ บางคนอาจจะเคยดูแล้ว บางคนอาจจะโตไม่ทันดู แต่แนะนำให้หามาดูกัน ตอนนี้เห็นมีการ Re-Master มาขายในรูปแบบ DVD ราคาถูกๆ เยอะแยะเลย ผมจะพยายามไม่เล่าเนื้อเรื่องนะครับ เกรงว่าเดี๋ยวจะไม่สนุกกัน

 

 Enter The Dragon (1973) 

10 เรื่องสร้างจุดเปลี่ยนของหนังฮ่องกง

บรูซ ลี ชื่อนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันอีกแล้ว สำหรับดารานักบู๊ผู้เป็นต้นแบบให้กับนักบู๊รุ่นหลังมากมาย หนังของ บรูซ ลี มีให้เขียนถึงมากมาย แต่ถ้าจะให้หยิบยกมาสักเรื่องหนึ่งที่นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการหนังฮ่องกงแล้วล่ะก็ต้องเป็น Enter The Dragon หรือในชื่อไทย ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง มังกรประจัญบาน หนังเรื่องนี้ทำรายได้ทั่วโลกกว่า 200 ล้านเหรียญ เป็นหนังกังฟูเรื่องแรกที่ทำให้ทั้งโลกหันมาสนใจหนังประเภทนี้อย่างจริงจัง

ความจริงแล้วสิ่งที่น่าสนใจในหนังของ บรูซ ลี แทบทุกเรื่องก็คือ การถ่ายทำฉากบู๊ต่างๆ ทั้งการใช้เทคนิค Close up หรือโรยแป้งไว้ที่ตัวทำให้เวลาเตะ คนดูจะเห็นความรุนแรงของการเตะมากขึ้น การออกแบบฉากการต่อสู้ก็เป็นอีกอย่างที่น่าสนใจ เช่น ฉากสู้กันในห้องกระจกของเรื่อง Enter The Dragon ที่จัดว่าเป็นฉากที่ถ่ายยาก และเข้าขั้นคลาสสิคไปแล้ว

 

 Police Story (1985) 

10 เรื่องสร้างจุดเปลี่ยนของหนังฮ่องกง

ผมคิดว่าว่าคนไทยส่วนใหญ่รู้จักชื่อ เฉินหลง ก่อน บรูซ ลี อีกนะครับ เฉินหลงหรือจะเรียกให้ดูอินเตอร์หน่อยก็ Jackie Chan เติบโตมาจากการเป็นสตั๊นแมน เคยเล่นเป็นตัวประกอบให้ บรูซ ลี กระโดดเตะหน้ามาแล้วด้วย เขาเริ่มโด่งดังมากขึ้นจากเรื่อง ไอ้หนุ่มหมัดเมา ในแนวทางของหนังกังฟูแทรกด้วยมุขตลก แล้วมาดังแบบพลุแตกกับ Police Story หรือ วิ่ง สู้ ฟัด นี่เองครับ หนังของเฉินหลงจัดเป็นอีกหนังอีกแขนงที่หนังบู๊รุ่นหลังมักนำไปใช้ทั้งฉาก Action รวมถึงคิวบู๊ต่างๆ ที่สอดแทรกด้วยความตลก จุดเด่นอีกอย่างของหนังเฉินหลงก็คือ เล่นจริง เจ็บจริง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน ไม่บอกก็รู้ใช่ไหมครับว่ามีหนังไทยที่ได้รับอิทธิพลมาด้วยเช่นกัน

 

 A Better Tomorrow (1986) 

10 เรื่องสร้างจุดเปลี่ยนของหนังฮ่องกง

ชื่อภาษาไทยทุกคนคงจะเคยได้ยินนะครับ โหด เลว ดี เนื้อเรื่องเล่าถึงพี่น้องที่คนหนึ่งเป็นพี่ใหญ่ในวงการมาเฟีย (อาเห่า) และคนหนึ่งเป็นตำรวจดาวรุ่ง (อาเฉีย) แต่คนที่โดดเด่นจริงๆ สำหรับเรื่องนี้ไม่ใช่ทั้งพี่มาเฟีย และน้องตำรวจ แต่เป็นลูกน้องของพี่มาเฟียชื่อ เสี่ยวหม่า ที่แสดงโดย โจวเหวินฟะ ที่เล่นได้สุดยอดทั้งอารมณ์ และแอ๊คชั่น ในเรื่องนี้เองที่ก่อให้เกิดการยิงปืนที่มีท่วงท่าอันสวยงาม ประหนึ่งกำลังดวลกระบี่ในหนังจีนกำลังภายใน การจับปืนยิง 2 มือพร้อมๆ กับไถลตัวไปด้วย ทำให้หนังแอ๊คชั่น รวมถึงดารารุ่นต่อๆ มาเลียนแบบกันเป็นแถว ไม่เว้นแม้แต่ในฮอลลีวู้ด

 

 God of Gamblers (1989) 

10 เรื่องสร้างจุดเปลี่ยนของหนังฮ่องกง

หนังที่สร้างคาแรคเตอร์หลักของเรื่องจนเป็นที่จดจำในโลกภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเลย กับการแต่งตัวด้วยสูทเนี้ยบ หวีผมเรียบแปร้ ชอบกินช็อคโกแลต และชอบหมุนแหวนที่นิ้วขณะเล่นพนัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ถูกนำมาเล่นมากมายในหนังพนันรุ่นหลังๆ นอกเหนือไปจากเรื่องคาแรคเตอร์แล้ว คนตัดคน ยังทำให้เรื่องราวการเล่นพนันน่าติดตาม และตื่นเต้นระทึกใจอีกด้วย แม้ว่าคนดูจะเล่นไม่เป็นก็ตาม เรียกว่าเป็นต้นแบบของหนังการพนันเลยก็ว่าได้

 

 A Moment of Romance (1990) 

10 เรื่องสร้างจุดเปลี่ยนของหนังฮ่องกง

ดอกฟ้ากับหมาวัด ดอกไม้กับนายกระจอก น่าจะบรรยายเนื้อเรื่องของหนังเรื่อง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ได้เป็นอย่างดี เรื่องราวของนักเลงมาเฟีย หลงรักกับคุณหนูผู้ร่ำรวย โดยมีฉากหลังเป็นการต่อสู้เพื่อปกป้อง และล้างแค้นให้พวกพ้อง สำหรับคนที่ไม่เคยดูอาจจะคิดว่า Plot ที่เหมือนกับละครหลังข่าวเรื่องนี้มันสร้างจุดเปลี่ยนได้อย่างไร เอาเป็นว่าเพราะหนังเรื่องนี้แหละที่ทำให้ หลิวเต๋อหัว ดังคับเอเชีย รวมถึงแฟชั่นการแต่งตัวในเรื่องนี้ กางเกงยีนส์ขาด แว่น Ray ban แจ๊คเก็ตยีนส์ หรือหวีผมแสกกลาง ก็มีอิทธิพลต่อวัยรุ่นในยุคนั้นมากทีเดียว แม้นี่จะไม่ใช่หนังดีอะไรมากมาย แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นยุคทองของหนังฮ่องกงที่เปิดตลาดเอเชียได้ รวมถึงหนังแนวมาเฟียที่ทำตามกันออกมาอีกเพียบ แล้วจะไม่ให้หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนได้อย่างไร

 

 Chungking Express (1994) 

10 เรื่องสร้างจุดเปลี่ยนของหนังฮ่องกง

หวังเจียเหว่ย หรือ หว่องกาไว คือผู้กำกับที่มสไตล์เป็นของตัวเองอย่างชัดเจน อีกทั้งได้ผู้กำกับภาพฝีมือฉกาจ คริสโตเฟอร์ ดอยล์ มาถ่ายภาพให้ทำให้หนังแต่ละเรื่องของหว่องกาไวสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น งานส่วนใหญ่ของหว่องกาไวมักจะไม่ค่อยมีบทที่ตายตัวชัดเจน บทจะถูกวางโครงไว้หลวมๆ โดยมีธีมครอบเอาไว้ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ในการทำงานที่ยากต่อการลอกเลียนแบบ หนังของเขามักจะเล่าถึงความเหงา เดียวดาย เรื่องนี้ก็เช่นกันที่เล่าเรื่อง 2 เรื่องของคนอกหัก 2 คนในหนังเรื่องเดียวกัน ด้วยวิธีที่แปลกประหลาด ทำให้หนังของคนอกหักที่แสนจะธรรมดาออกมาเท่มากๆ นี่เองส่งผลให้โดนใจเด็กแนวในขณะนั้น และก็มีหนังหลายๆ เรื่อง รวมทั้งหนังไทยบางเรื่องนำวิธีการเล่าเรื่องแบบนี้มาใช้อีกด้วย

 

 Comrades: Almost a Love Story (1996) 

10 เรื่องสร้างจุดเปลี่ยนของหนังฮ่องกง

“บทภาพยนตร์ดี การแสดงดี เพลงเพราะ กลมกล่อมลงตัว อบอุ่นใจ” ที่คือความรู้สึกหลังจากที่ดูเรื่องนี้จบ ถ้าใครมีโอกาสได้ชมแล้วคงจะคิดเหมือนๆ กัน เถียนมีมี่ 3,650วัน ฉันรักเธอคนเดียว เป็นเรื่องราวของคนจีนแผ่นดินใหญ่ 2 คนที่เข้ามาแสวงหาโอกาสลืมตาอ้าปากในฮ่องกงซึ่งขณะนั้นยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ จากความใกล้ชิดทำให้เกิดความรัก บนความพลิกผันของชีวิตก็ทำให้ต้องจากกัน โดยมีเพลงของเติ้งลี่จวินประกอบอยู่ทั้งเรื่อง สุดท้ายจะเป็นอย่างไรต้องไปดูกันเอง  และเป็นหนังเรื่องนี้นี่แหละที่ส่งผลให้หนังฮ่องกงหันมาให้ความสำคัญกับบทหนังมากขึ้น รวมทั้งยังทำให้วงการหนังฮ่องกงมีหนังโรแมนติกเกิดมามากมายอีกด้วย

 

 Infernal Affairs Trilogy (2002 – 2003) 

10 เรื่องสร้างจุดเปลี่ยนของหนังฮ่องกง

หลังจากที่วงการหนังฮ่องกงซบเซาไปนานก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยหนังทริลเลอร์ มหากาพย์เรื่อง Infernal Affairs หรือ สองคนสองคม หนังให้ความสำคัญกับบทภาพยนตร์ และองค์ประกอบต่างๆ ในภาพมาก เนื้อเรื่องทั้ง 3 ภาคมีความตื่นเต้นเร้าใจตลอดเวลา เรียกว่ากระพริบตาแทบไม่ได้เลย Infernal Affairs เป็นจุดเริ่มต้นของหนังทริลเลอร์ฮ่องกงยุคใหม่ เป็นต้นแบบของหนังตำรวจที่เดินเรื่องแบบจริงจัง หนังเรื่องนี้โด่งดังถึงขนาดไปเตะตา มาร์ติน สกอร์เซซี่ จนถึงขนาดนำไป Re-make เป็นหนังฮอลลีวู้ดเรื่อง The Departed ซึ่งนำแสดงโดย ลีโอนาโด ดิคาปริโอ และ แมตต์ เดม่อน

 

 Kung Fu Hustle (2004) 

10 เรื่องสร้างจุดเปลี่ยนของหนังฮ่องกง

ความจริงแล้วหนังโจวซิงฉือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ไล่มาตั้งแต่ คนตัดเซียน, คนเล็กนักเรียนโต, ไซอิ๋ว 95 เดี๋ยวลิงเดี๋ยวคน ฯลฯ มีหนังหลายเรื่องพยายามทำเลียนแบบวิธีการของเขาแต่ก็ไปไม่รอดสักราย ผมพยายามเลือกหนังของเขาอยู่นานจนคิดว่า Kung FU Hustle หรือ คนเล็กหมัดเทวดา นี่แหละเหมาะที่สุด เพราะความเป็นตัวตนของเขาตกผลึกเต็มที่ แม้เนื้อเรื่องจะเป็นเหมือนหนังกำลังภายในทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้คนจดจำหนังเรื่องนี้ได้ก็คืองาน Art Direction ที่กลายเป็น Reference ของหนังใหญ่ และหนังโฆษณามากมายเลย

 

 Ip Man (2008) 

10 เรื่องสร้างจุดเปลี่ยนของหนังฮ่องกง

เรื่องสุดท้ายหนังใหม่หน่อย ยิปมัน ปรามาจารย์มวยหย่งชุน ที่ฮิตถล่มทลายจนลากยาวสร้างกันออกมาหลายภาค เพราะหนังเรื่องนี้ทำให้เรารู้จักมวยสำนักต่างๆ ของจีนมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งมวยหย่งชุน ทำให้เราได้เห็นการดำเนินการ และวิถีของสำนักมวยจีนต่างๆ ซึ่งนอกจากหนังจะฮิตแล้ว หนังเรื่องยิปมันยังทำให้โรงเรียนสอนศิลปะป้องกันตัวต่างๆ มีหลักสูตรการเรียนการสอน มวยหย่งชุน เพิ่มขึ้นมาอย่างมากมาย นอกจากนั้นการถ่ายทำฉากต่อสู้ที่หนักแน่น และจริงจังของ ยิปมัน ก็ยังเป็นอีกอย่างที่เป็นกรณีศึกษาให้กับหนังกังฟูเรื่องต่อๆ มาอีกด้วย

ทั้ง 10 เรื่องนี้ขอบอกว่าคุณไม่ควรพลาดเลยสักเรื่องเดียว

🙂

© 2024 GOTWOGETHER     About | Contact
 
TOP
Powered by: Wordpress