Extraction ดีงามที่ฉากแอคชั่น
หนังเรื่องใหม่ล่าสุดของ คริส เฮมเวิร์ธ (Chris Hemsworth) ที่ Netflix ปล่อยออกมาให้ได้ชมกันในช่วงที่คนทั้งโลกกำลังต้องกักตัวจากไวรัส Covid-19 พอดิบพอดี และแน่นอนว่าได้รับความสนใจจากผู้ชมชาวไทยมากทีเดียว เป็นเพราะตัวของ คริส เฮมเวิร์ธ ที่โด่งดังได้ใจสาวๆ มาแล้วตั้งแต่รับบทเทพเจ้าสายฟ้าธอร์ (Thor) จากจักรวาลมาร์เวล (Marvel Universe) และหนังเรื่องนี้ยังถ่ายทำที่นครปฐม และราชบุรีอีกด้วย แต่เรื่องราวในหนังจะเกิดขึ้นที่อินเดีย และบังคลาเทศ
Extraction เวอร์ชั่นหนังถูกดัดแปลงมาจากนิยายภาพเรื่อง Ciudad โดยมี โจ รุซโซ ที่เคยเป็นผู้กำกับหนังตระกูล Avengers หลายเรื่อง ทั้ง Captain America: Civil War, Captain America: The Winter Soldier, Avengers: Infinity War และ Avengers: Endgame รับหน้าที่เป็นผู้เขียนบทเรื่อง Extraction นี้
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ โอวี่ มหาจัน ลูกชายของเจ้าพ่อค้ายาของอินเดีย ถูกเจ้าพ่อค้ายาคู่อริจากบังคลาเทศลักพาตัวไป ทำให้ ชาจู ลูกน้องของฝ่ายเจ้าพ่ออินเดียเดือดร้อนหนักเพราะความผิดพลาดจากการที่ดูแลลูกชายเจ้านายไม่ดีอาจทำให้ลูกเมียตัวเองต้องลำบากไปด้วย ชาจูจึงต้องไปเรียกกลุ่มทหารรับจ้างบุกเข้าไปชิงตัว แน่นอนว่าคือกลุ่มของ ไทเลอร์ เรก (คริส เฮมเวิร์ธ) พระเอกของเรื่องนั่นเอง
การว่าจ้างครั้งนี้ ชาจู เองก็วางแผนที่จะชักดาบกลุ่มของไทเลอร์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ด้วยการรอให้ไทเลอร์บุกเข้าไปชิงตัว โอวี่ ออกมาแล้วเขาก็จะไปแย่งตัวมาจากไทเลอร์อีกที ด้วยเหตุนี้ทำให้กลุ่มทหารของไทเลอร์ตายเรียบ และการพาตัวโอวี่ออกไปในที่ปลอดภัยต้องล้มเหลวในตอนแรก
เรื่องยุ่งยากเข้าไปอีกเพราะไทเลอร์ และโอวี่ ต้องตกอยู่ในวงล้อมที่เมือง Dhaka ซึ่งมีแม่น้ำล้อมรอบ แถมยังถูกตามล่าโดยกองกำลังทหารที่เจ้าพ่อค้ายาบังคลาเทศเลี้ยงเอาไว้ และยังมีกลุ่มเด็กสลัมที่ถูกติดอาวุธให้ตามสังหารไทเลอร์อีกด้วย และยังมี ชาจู เข้ามาแทรกแซงทำให้เรื่องยิ่งวุ่นวายขึ้นไปอีก ซึ่งทางเดียวที่จะรอดออกไปได้ก็คือต้องข้ามสะพานเพื่อออกไปจากเมืองให้ได้เท่านั้น
เนื้อเรื่องแทบจะเป็นไปตามสูตรสำเร็จของหนังแอคชั่นแบบนี้เลย ก็คือ ตัวละครมีคาแลคเตอร์แบบฮีโร่ เก่งกาจ ลุยเดี่ยวเพื่อไปทำภารกิจบางอย่าง แต่ต้องไปติดกับสถานการณ์ และสถานที่ แน่นอนว่าสุดท้ายภารกิจสำเร็จอยู่แล้วล่ะ เพราะฉะนั้นตัวเนื้อเรื่องเองไม่ใช่อะไรที่ต้องไปตื่นเต้นกับมัน
ตัวละครแต่ละคนก็แบนๆ มีจุดมุ่งหมายแค่อย่างเดียว ซึ่งก็พยายามใส่มิติด้านปมเรื่องลูกเรื่องเมียของพระเอกเข้าไป แต่ก็ไม่ได้หยิบเอามาใช้ประโยชน์อะไรมากมาย นอกจากโผล่มาเป็นภาพในหัวของไทเลอร์แบบเบลอๆ ซึ่งมันอาจจะสื่อให้เห็นถึงการดำรงชีวิตอยู่แบบไม่มีอนาคตชัดเจนของตัวไทเลอร์เอง จนท้ายที่สุดก็มาเห็นภาพนั้นชัดๆ ในตอนเกือบจบ ซึ่งคนดูก็รู้อยู่แล้วว่าภาพนั้นมันคือเท้าลูกชายของไทเลอร์ที่ชายหาดนั่นเอง ความผูกพันระหว่างไทเลอร์ และโอวี่เองก็ไม่เห็นว่ามันจะลึก จนเกิดความซาบซึ้ง ผูกพันจนถึงขนาดที่ไทเลอร์จะกลับมาฉากจบริมสระว่ายน้ำ (ตรงนี้ผู้กำกับตั้งใจใช้เป็นภาพเบลอๆ ลักษณะเดียวกันกับที่ไทเลอร์เห็นภาพลูกตัวเองเบลอๆ นั่นแหละ แถมยังบอกว่าจบแบบปลายเปิดให้คนดูคิดเองว่า ไทเลอร์ตาย หรือไม่ตาย)
ความดีงามของ Extraction นั่นคือการออกแบบฉากแอคชั่น และการออกแบบการถ่ายทำฉากไล่ล่า และต่อสู้ได้แบบโคตรดี ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ด้วยการยิงปืนระยะประชัด หรือสไนเปอร์ การใช้มีดสั้นเข้าสู้กัน ก็ทำออกมาได้สะใจ และได้ความสะดุ้ง ความเสียวดีเลย ส่วนการถ่ายทำมีทั้งใช้ภาพมุมแคบ แฮนด์เฮล Long Take การเคลื่อนกล้องตามติดตัวละครจากที่สู้อยู่ชั้นบน ต้องร่วงตกลงมาที่พื้นชั้นล่าง หรือฉากไล่ล่าในรถ แล้วกล้องต้องจับภาพหมุนไปหมุนมา ทำให้ได้อารมณ์เหมือนเรานั่งอยู่บนรถคันนั้นจริงๆ จนหนังจบผมต้องรอดูว่าใครคือ Director of Photography เลย ยกความดีความชอบของหนังเรื่องนี้ให้กับ Newton Thomas Sigel ผู้กำกับภาพของเรื่องนี้ครับ
สรุปว่า Extraction ไม่ใช่หนังที่ขายเนื้อเรื่องหวือหวา หรือหักมุมให้เราเซอร์ไพรส์ แต่ก็ถือว่าเป็นหนังที่ดูได้สนุก เร้าใจ ไปกับฉากต่อสู้ ทำให้คุณสามารถดูได้แบบเพลินๆ เลย
ติดตาม หนังสติ๊ก Movie Talk
อ่านเพิ่มเติม
